8.3.55

พระจันทร์

19.30 น. โทรศัพท์มือถือบนโต๊ะสั่นผิดเวลา ฉันหยิบมาเปิดดูข้อความ

“Hey! please see the moon now. It’s lovely.”

พระจันทร์? ฉันหยุดคิด แสดงว่าวันนี้ต้องมีอะไรพิเศษ ก่อนจะวางเอกสารในมือลง กำลังจะกดโทรศัพท์ แต่แล้วกลับเปลี่ยนใจ ขยับตัวลุกจากเก้าอี้ไปที่หน้าต่างกระจกบานใหญ่ของตึกสูง โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจากมุมนี้จะมองเห็นพระจันทร์หรือไม่

เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่ฉันจะเดินไปถึงหน้าต่าง

“เชิญค่ะ”

ร่างสูงเปิดเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบเฉยเป็นปกติ

“คุณช่วยดูเอกสารนี่หน่อยสิ” เขาวางกระดาษปึกใหญ่ลงบนโต๊ะ “มีหลายอย่างที่ผมไม่แน่ใจว่าเราควรจะจัดการยังไง ”

“คะ?” ฉันปรับอารมณ์ไม่ทัน

“รีบหน่อยก็ดีนะ ผมอยากได้ตอนนี้” เขาหันหลังทำท่าจะเดินออกไป แต่แล้วกลับชะงัก

“คุณทำอะไรอยู่หรือเปล่า?”

“เปล่าค่ะ” ฉันตอบเสียงเรียบ

“หรือว่าคุณกำลังจะกลับบ้าน?”

“ไม่ค่ะ”

“แล้วคุณกำลังจะไปไหน?”

“ฉันแค่จะลุกไปดูพระจันทร์”

ใบหน้านั้นนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะขมวดคิ้ว

“แล้วแต่คุณแล้วกัน ถ้าไม่ว่างไม่เป็นไร ผมรอพรุ่งนี้ก็ได้” เขาหันหลัง ก้าวออกจากห้องไปอย่างไม่สนใจ

ฉันเดินกลับมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม รู้สึกได้ทันทีว่ามือเย็นเฉียบ

เอกสารที่เขาหอบมากองวางรออยู่ตรงหน้า ขณะที่ฉันกำลังชั่งใจอย่างหนักว่า ควรหยิบขึ้นมาดูสักแผ่นในตอนนี้เลย หรือจะทิ้งไว้อย่างนี้ก่อน แล้วค่อยมาจัดการพรุ่งนี้เช้า

ระหว่างนั้น เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง

ชายหนุ่มเปิดเข้ามาโดยไม่รอเสียงตอบ

“มากับผมหน่อยสิ” น้ำเสียงอ่อนลง

“คราวนี้อะไรอีกล่ะ” ฉันชักฉุน

มือสวยเข้ามาดึงข้อมือฉันให้ลุกขึ้น เดินนำไปยังห้องกาแฟเล็กๆ บนตึกสูงที่มีหน้าต่างกระจกแคบๆ เพียงบานเดียว เวลาเย็นหลังเลิกงานที่ยังเหลือคนทำงานอยู่ไม่กี่คน ทำให้ห้องเล็กริมทางเดินนี้มืดและเงียบสนิท แต่ยังหอมกลิ่นกาแฟจางๆ

“ตรงที่คุณอยู่มองไม่เห็นหรอก พระจันทร์” เขาดึงมือฉัน “ต้องมาตรงนี้”

เขาเบี่ยงตัวหลบ ฉันเดินเข้าไปชะโงกหน้าแนบกระจกหน้าต่าง ข้างนอกมีพระจันทร์เสี้ยวกำลังอมยิ้มน่ารัก

“ของขวัญขอบคุณล่วงหน้า สำหรับความใจดีที่จะช่วยงานผม” ถึงไม่เห็นหน้าก็รู้ว่าคนพูดกำลังยิ้ม ยิ่งชัดว่ากำลังแกล้งสำนึกผิด

“Common Heritage of Mankind” ฉันย้อนทันควัน

“ครับ?”

“หลักสมบัติร่วมกันของมนุษยชาติ” ฉันหันกลับไปเผชิญหน้าเขา

“ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ดวงจันทร์ ดวงดาว และวัตถุอวกาศ รวมทั้งพื้นที่และทรัพยากรที่อยู่ในเขตทะเลหลวง ต่างถือเป็นสมบัติร่วมกันของมนุษยชาติ นั่นหมายความว่า สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ไม่อาจตกเป็นกรรมสิทธิหรือแม้แต่จะถูกยึดถือหรือครอบครองได้โดยรัฐหรือบุคคลใด และทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ได้เท่าเทียมกัน”

“คุณให้พระจันทร์เป็นของขวัญฉันไม่ได้หรอก” หางเสียงสะบัด

เขาสบตาฉัน หยิบบางอย่างขึ้นมาจากกระเป๋า

“คุณอยู่นิ่งๆ ก่อนนะ”

เสียงชัตเตอร์ลั่นเบาๆ

“ถูกที่ว่าผมให้พระจันทร์เป็นของขวัญคุณไม่ได้”

นิ้วเรียวเอื้อมมาแตะปลายผม “แต่รูปพระจันทร์ที่ผมถ่ายเองกับมือ คุณเองก็คงหาที่ไหนไม่ได้เหมือนกัน”

“ดูสิ สวยไหม” เขาส่งโทรศัพท์มือถือให้

“นี่ไง พระจันทร์ของเรา”

ไม่มีความคิดเห็น: