31.10.53

เจตนา

ชายหนุ่มทิ้งตัวนั่งลงตรงหน้าฉันด้วยท่าทางเหนื่อยหน่าย เอนหลังพิงพนัก หลับตานิ่ง ก่อนจะเอ่ยปากขึ้นมาสั้นๆ

“คุณ”

ฉันเงยหน้า ละมือจากคอมพิวเตอร์ เหลียวไปมอง ตาสวยคู่นั้นยังคงปิดสนิท

“คะ?”

“เย็นนี้ไปลอยกระทงกันไหม?”

“อะไรนะคะ?”

เขาพูดทั้งๆ ที่ตายังปิดอยู่

“ลอยกระทง ผมอยากไปลอยกระทง ไปด้วยกันไหม?”

ฉันหัวเราะ

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

“คุณไม่ได้ลอยกระทงมานานเท่าไรแล้ว” เหมือนจงใจเลี่ยงคำตอบ เขาเปิดเปลือกตา ชะโงกตัวมาเท้าแขนสองข้างลงบนโต๊ะ คราวนี้ฉันเห็นแววอ่อนล้าในดวงตาคู่นั้นอย่างชัดเจน

ฉันนิ่งแทนคำตอบ

“ไม่ตอบ ผมถือว่าคุณตกลงนะ”

“อ้าว คุณ” ฉันร้อง “นี่เรากำลังพูดเรื่องเดียวกันหรือเปล่าคะ”

แม้สีหน้าจะมีรอยยิ้มขำ แต่ประกายตากลับดูอ่อนแรงกว่าทุกที

“ผมตั้งใจชวนคุณ ถ้าคุณนิ่งและไม่ปฎิเสธ ผมจะถือว่าคุณตอบรับ”

หลังจบประโยค เขาเอนตัวกลับไปในท่ากอดอกหลังพิงพนักอย่างเดิม อาการแบบนี้ทำให้ฉันต้องหมุนเก้าอี้กลับมามองหน้าเขาอีกครั้งอย่างตั้งใจ ชายหนุ่มยังอยู่ในท่ากอดอก ขยับศีรษะขึ้นมองฉันเพียงเล็กน้อย อากาศในห้องสี่เหลี่ยมเย็นสบาย เวลาเพิ่งจะล่วงพ้นบ่ายมาไม่นาน แต่ใบหน้าที่อยู่หลังกรอบแว่นสีทองกลับดูเหนื่อยล้าและไม่สดชื่นร่าเริงเท่าที่ควร

ในเมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้...

...ฉันนิ่งคิด... ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยปาก

“ตามกฎหมาย คุณคงรู้ว่าโดยปกติการนิ่งไม่ถือเป็นการแสดงเจตนา”

ฉันลากนิ้วไปเล่นตามแผ่นกระดาษบนโต๊ะ ขณะที่เขายังชะงักในท่าเดิม

“การแสดงเจตนาที่จะถือว่ามีผลผูกพันผู้แสดงเจตนาตามกฎหมาย ต้องเป็นการแสดงเจตนาโดยแจ้งชัดหรือโดยปริยาย เช่น ถ้าฉันจะไป ฉันต้องตอบตกลงกับคุณอย่างชัดเจน หรืออาจต้องแสดงออกให้คุณเห็นด้วยวิธีอื่น เช่น พอคุณชวนปุ๊บ ฉันก็คว้าเข็ม ด้าย ใบตองขึ้นมาปั๊บ ตั้งหน้าตั้งตาเย็บกระทงแล้วเย็นนี้ก็เอาไปส่งให้คุณที่โต๊ะ...”

เขามองฉันตาค้าง

“...อย่างนี้ต่างหาก จึงจะถือว่าฉันตอบตกลง และการแสดงเจตนานั้นจึงจะมีผลผูกพัน แค่ฉันมองคุณนิ่งๆ แบบนี้ จะถือว่าฉันมีเจตนาตอบตกลงคงไม่ได้”

วินาทีนั้นเขาสวนกลับมาทันควัน

“งั้นหรือ? ผมนึกว่ากฎหมายยังมีข้อยกเว้นไว้เสียอีก”

เขาผุดลุกขึ้นนั่ง

“ในบางกรณีที่มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะ หรือตามปกติประเพณีการนิ่งถือเป็นการแสดงเจตนา การนิ่งนั้นก็จะมีผลเป็นการแสดงเจตนาได้ตามกฎหมาย เช่น การสั่งอาหาร แม่ค้าอาจจะเฉยๆ ไม่แสดงเจตนาว่าตกลงจะทำอาหารให้ แต่ตามปกติประเพณีเราถือว่า การนิ่งเฉยของแม่ค้า ถือเป็นการแสดงเจตนาตกลงทำอาหารให้ตามที่สั่งแล้ว ดังนั้น การนิ่งของแม่ค้า จึงเท่ากับเป็นการตอบตกลง”

“ฉันไม่ใช่แม่ค้า”

“แต่ผมว่า การลอยกระทงก็เป็นงานประเพณีอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้นการชวนใครสักคนไปลอยกระทง แล้วเขาไม่ปฎิเสธ ผมก็เชื่อว่าตามปกติประเพณี เราน่าจะถือว่าเขาตอบตกลงได้”

“หรือคะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอปฏิเสธ”

เขาชะงัก คิ้วขมวด

“ทำไม?”

ฉันตอบเสียงเรียบ

“วันนี้คุณเหนื่อยมากแล้ว ควรรีบกลับไปพักผ่อน”

“ฉันอยากให้เย็นนี้เรากินข้าวเย็นด้วยกัน แล้วคุณกลับบ้าน หรือถ้าขับรถไม่ไหว ฉันจะขับไปส่ง ตกลงไหมคะ?”