5.9.53

ผู้ทรงสิทธิ

ฉันเงยหน้าขึ้นมองไรผมชื้นเหงื่อที่กำลังสาละวนเก็บกวาดสารพัดอุปกรณ์ที่เกะกะกระจัดกระจายอยู่หน้าบ้าน

ชายหนุ่มในชุดเสื้อยืดคอกลมสีขาวสภาพคล้ายจะถูกใช้งานมานานปี กับกางเกงขาสั้นแค่เข่า รองเท้าแตะหลวมโพรก ช่างดูขัดกับภาพความเป็นจริงที่เคยเห็นจนชินตา

“ให้ตายเถอะ” เขาสะบัดแขนขึ้นปาดเหงื่อ


“จริงๆ นะ ผมนึกไม่ถึงเลยว่าจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ ”


“ นานๆที” ฉันว่า “คุณนี่ขี้บ่นจัง”


“ถ้าลีโอไม่ซนเอาเรื่อง ผมคงไม่ต้องลงทุนทำรั้วใหม่” น้ำเสียงอ่อนใจ


“ทำแล้วจะเอาอยู่หรือเปล่ายังไม่รู้ ทั้งรั้ว ทั้งบ้านหมา ทั้งหมดนี่เพื่อมันโดยเฉพาะ”


ชายหนุ่มปาดมือเข้ากับกางเกง เดินมาทางฉันที่กำลังนั่งจิบน้ำเย็นไม่รู้ไม่ชี้อยู่ที่โต๊ะตัวเล็กหน้าบ้าน


“คุณว่าลีโอจะชอบไหม?”


“รั้ว หรือ บ้านคะ?” ฉันพลิกกระดาษตรงหน้า


ชายหนุ่มยักไหล่


“ฉันว่าลีโอคงไม่ชอบถูกจำกัดอิสรภาพในรั้วที่สูงขึ้น แต่บ้านก็ดูน่ารักดี เขาอาจจะชอบก็ได้”


“อดีตเจ้าพ่อคุมซอยอย่างเจ้านั่น ตอนนี้กำลังจะมีสมบัติเป็นของตัวเอง ผมอยากให้เขามีบ้าน มีอาณาบริเวณที่เป็นของเขา ให้รู้ว่านี่คือบ้าน จะได้ไม่ต้องไปเที่ยวเร่ร่อนอยู่ตามถนนอีก ทั้งบ้านทั้งรั้วที่ผมทำนี่ ของเขาทั้งหมดนั่นละ”


ฉันหัวเราะ “อ้าว หรือคะ นึกว่าของคุณเสียอีก”


“หือ?”


“คุณลืมแล้วหรือ สุนัขไม่สามารถเป็นผู้ทรงสิทธิได้ตามกฎหมาย”


“เอาแล้วไง” ถึงทีเขาหัวเราะบ้าง “ใช่ ถูกของคุณ...”


“...ผู้ทรงสิทธิ หรือผู้ถือสิทธิ ตามกฎหมายหมายถึงผู้ที่เป็นเจ้าของสิทธิ และสามารถใช้สิทธิใดๆ ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งผู้ที่จะเป็นเจ้าของสิทธิ หรือผู้ทรงสิทธิที่ว่านี้ จะต้องเป็น “บุคคล” เท่านั้น สัตว์ ทรัพย์ หรือสิ่งของไม่สามารถเป็นผู้ทรงสิทธิ”


“ตัวอย่างเช่น เราไม่สามารถทำพินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติให้แมว สุนัข หรือสัตว์เลี้ยงอะไรก็ตามที่เรารักได้ เพราะสัตว์เหล่านี้ไม่สามารถใช้สิทธิเหนือทรัพย์ แม้พินัยกรรมจะทำขึ้นอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการก็ตาม แต่ถ้าเกิดจะทำพินัยกรรมยกสมบัติให้ใครสักคน โดยมีข้อตกลงว่าต้องเลี้ยงดูสัตว์ของเราให้ด้วยละก็ แบบนั้นทำได้”


เขายิ้ม


“สรุปคือ... ผู้ทรงสิทธิ ต้องมีสถานะเป็นบุคคลเท่านั้น จะเป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลก็ได้ ส่วนหมา แมว นก งู กระรอก กระต่าย ช้าง ม้า วัว ควาย อะไรต่างๆ เหล่านี้จะเป็นผู้ทรงสิทธิไม่ได้”


“ผมเข้าใจถูกไหม?”


ฉันไม่ตอบ


“เป็นอันว่า รั้วกับบ้านหมานี่ ไม่ใช่ของลีโอ แต่เป็นของผม เพราะลีโอเป็นสุนัข จึงไม่สามารถเป็นผู้ทรงสิทธิเหนือทรัพย์...”


ท่าทางเขาเริ่มสนุกที่จะต่อปากต่อคำ


“ไม่รู้ละ” ฉันเปลี่ยนเรื่อง “ถ้าฉันเป็นลีโอ กลับมาเห็นรั้วสูงท่วมหัวแบบนี้ คงแทบร้องไห้”


เขาหัวเราะหึหึ


“จะไปเป็นลีโอทำไม เป็นคุณแบบนี้ดีอยู่แล้ว ไหนๆ ของพวกนี้เป็นของผม แล้วเราก็สนิทกัน นี่ผมกำลังคิดอยู่เชียวว่า ถ้าเป็นอะไรไป ผมจะทำพินัยกรรมยกสมบัติทั้งหมดให้คุณ”


ฉันหันขวับ ทันได้เห็นใบหน้าเปื้อนเหงื่อที่ยังคงมีรอยยิ้มจางๆ


“แล้วถ้าถึงวันนั้นขึ้นมาจริงๆ ผมฝากคุณช่วยดูแลลีโอแทนผมทีได้ไหม”

ไม่มีความคิดเห็น: